“มันเป็นวัฏจักรชีวิต สิงโตยังล่าสัตว์กินเลย” แล้วทำไมคนต้องเลิกกินสัตว์?
เรารู้กันว่าคำว่าวัฏจักรคือความสมดุลทางระบบนิเวศน์และธรรมชาติในห่วงโซ่อาหาร สิงโตล่าเนื้อสัตว์เพื่อความอยู่รอดในวัฏจักรชีวิต (และเราต่างทราบกันดีว่าสิ่งที่มนุษย์เรามองว่าโหดร้ายในธรรมชาตินั้นคงจะเป็นสิ่งโหดร้ายเช่นกันถ้าเกิดในอริยธรรมมนุษย์ปัจจุบัน เช่น การล่าวาฬ หรือ การบริโภคเนื้อสุนัข)
ในจำนวนสัตว์โลก:
4% คือ สิงโต และ สัตว์ป่าอีกนานาชนิดที่พยายามอยู่ในวัฏจักรชีวิต
60% คือ จำนวนสัตว์ในอุตสาหกรรม
36% คือ มนุษย์ที่บริโภคจาก สัตว์ในอุตสาหกรรม และหลายครั้งก็จากสัตว์ป่าด้วย (ตามภาพที่ 2)
เห็นได้ชัดว่าตัวเลขนี้บ่งบอกถึงความสุดโต่งของ ”วัฏจักรมนุษย์ประดิษฐ์” ที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับวัฏจักรธรรมชาติเลย มิหนำซ้ำยังรุกรานวัฏจักรธรรมชาติในหลายด้านและสร้างความเสียหายอย่างมาก ยกตัวอย่างคือ ป่าอเมซอนที่ 91% นั้นเสียหายจากอุตสาหกรรมฟาร์มสัตว์
”วัฏจักรมนุษย์ประดิษฐ์” ไม่ได้หยุดแค่การเบียดเบียนวัฏจักรธรรมชาติ แต่ยังรวมไปถึงความโหดร้ายในอุตสาหกรรมฟาร์มสัตว์ ไม่ว่าจะเป็น ไก่ที่ไม่สามารถสยายปีกตลอดชีวิตที่อยู่ในกรง หรือ หมูที่ถูกสังหารหมู่ในห้องลมแก๊ส
มนุษย์เราในยุคปัจจุบันมีทางเลือกที่จะไม่บริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ไม่มีความจำเป็นต้องออกไปล่าสัตว์ และ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยืมมือผู้อื่นในการคร่าชีวิตสัตว์ พวกเราทั้งหมดในฐานะมนุษย์ที่อยากก้าวเข้าสู่อารยธรรมที่ไร้ซึ่งความโหดร้ายและเชื่อในวัฏจักรธรรมชาติ เรายิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะลดล้างการเบียดเบียนและความโหดร้ายเหล่านี้ มาเป็นวีแกนกันเถอะ
ที่มา: MercyforAnimals, TheGuardian